Honda Civic (ฮอนด้า ซีวิค) เป็นรถยอดนิยมสำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่จนถึงวัยทำงาน หรือครอบครัวขนาดเล็ก โดยฮอนด้า ซีวิค แต่ละโฉมจะมีบางรุ่นย่อยที่สมถรรนะใกล้เคียงกัน เช่น Honda Civic 1.8 E และ 1.8 EL (ปี 2016-2020) และเป็นรถในกลุ่ม C-segment ยอดนิยมอันดับต้นของประเทศไทย ที่ครองตลาดมายาวนานกว่าทศวรรษ
กระทั่งเจเนอเรชั่นล่าสุดที่เปิดตัว Honda Civic 2024 ไปเมื่อปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ Honda Civic มือสองติดอันดับรถขายดีที่ครองใจคนที่ชื่นชอบความทันสมัย ผสมผสานความสปอร์ตและซีดานไว้อย่างลงตัว จึงมอบประสบการณ์การขับรถที่ทั้งสนุก เครื่องแรง แซงดี หรูหรา และนั่งสบายในเวลาเดียวกัน โดยวันนี้เราจึงอยากจะเจาะลึก Honda Civic 2020 (ฮอนด้า ซีวิค 2020) อีกหนึ่งรุ่นรถซีวิคที่ได้รับความนิยมอันดับต้นๆ ในตลาดรถมือสอง
รู้จัก Honda Civic 2020 รถมือสองเจเนอเรชั่น 10 ที่ยังครองใจคนเมือง
แม้หน้าตาภายนอกจะคล้ายกันแทบจะทุกกระเบียดนิ้ว แต่รู้ไหมว่า รถ Honda Civic 2020 ทั้ง 2 รุ่นย่อยนี้แตกต่างกันตรงไหนบ้าง? เรามาเทียบให้ดูแบบจุดต่อจุดเลยดีกว่า ว่ากันด้วยเรื่องของรูปลักษณ์ภายนอกของ Honda Civic FC ที่ออกมาจำหน่ายช่วงปี 2016 ถึง 2020 หน้าตาโฉบเฉี่ยวดีไซน์สปอร์ต รถฮอนด้า ซีวิค เจเนอเรชั่นที่ 10 นี้เป็นพิมพ์นิยมที่น่าเก็บสะสมอีกรุ่นหนึ่งเลยก็ว่าได้ ซึ่งหน้าตาจะดูวัยรุ่นกว่าโฉมล่าสุด (2023-2024) สักหน่อย
ด้านหน้าดูสปอร์ตมาก เส้นสายตั้งแต่หน้ารถไปจนถึงด้านหลังสวยหรูดูพรีเมียม พร้อมไฟท้ายที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นรูปตัวซี (C) โดยรวมต้องบอกว่า ดีไซน์ภายนอกของ Honda Civic ปี 2020 มีความหรูหรา สง่างาม ถ้าได้ชุดแต่งสวย ๆ เพิ่มไปอีกนิดจะช่วยให้รถโดดเด่นสะกดทุกสายตามากขึ้น
ดีไซน์ภายนอกของ Honda Civic ระหว่าง 1.8 E และ 1.8 EL มองเผินอาจจะคล้ายกัน เพราะตัว E เป็นรุ่นเริ่มต้น ส่วน EL เป็นตัวท้อปของเครื่องยนต์ขนาด 1,800 cc ซึ่ง 2 รุ่นย่อยนี้ ราคาตอนออกจำหน่ายใหม่ ๆ ห่างกันประมาณ 90,000 บาท โดย Honda Civic รุ่นเริ่มต้นราคาเปิดตัวประมาณ 8 แสนกว่าบาท และรุ่นท้อปราคาประมาณ 9 แสนกว่าบาท ทำให้ Honda Civic 2020 จัดเป็นรุ่นรถมือสองที่คุ้มค่ามากที่สุด เพราะสเป็กต่าง ๆ เทคโนโลยียังไม่ตกรุ่น
Honda Civic รุ่น 1.8 E และ 1.8 EL มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร SOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว 141 แรงม้า ระบบเกียร์ CVT ที่ได้รับการพัฒนาภายใต้เทคโนโลยีที่ชื่อ "เอิร์ธดรีม" (Earth Dreams Technology) มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสมรรถนะทรงพลังมากขึ้น พร้อมตอบสนองทุกการขับเคลื่อนได้อย่างรวดเร็วทันใจ ด้วยอัตราเร่งที่ทรงพลัง และประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม แล้วยังรองรับพลังงานทางเลือก E85 ผสานกับเทคโนโลยีความปลอดภัยอันล้ำสมัย ด้วยระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) และระบบ Auto Brake Hold (Automatic Brake Hold)
Note: ระบบส่งกำลังยุคใหม่ของฮอนด้าที่ชื่อ “Earth Dreams Technology” เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ พร้อมกับประหยัดน้ำมันได้อย่างดีเยี่ยม และคงคอนเส็ปต์ 'ขับสนุก' ตามแบบฉบับของฮอนด้าไว้อย่างสมบูรณ์แบบ ฮอนด้าตั้งเป้าหมายที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงเฉลี่ย 30% ในรถทุกรุ่น นับตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา
เทียบความต่าง Honda Civic 2020 รุ่น 1.8E และ 1.8 El ต่างกันตรงไหน?
- Honda Civic รุ่น E และ EL หน้าตาจะเหมือนกัน ทั้งไฟหน้า ฝากระโปรง กันชน กระจังหน้า จะเหมือนกัน แต่รุ่น E จะไม่มีไฟตัดหมอกมาให้ ส่วนรุ่น EL มาพร้อมไฟตัดหมอกช่วยให้ทัศนวิสัยดีขึ้นในยามค่ำคืน
- Honda Civic รุ่น EL มาพร้อมระบบไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ ขณะที่รุ่น E ปิดอัตโนมัติอย่างเดียว เรียกว่า ดูเผิน ๆ ก็หรูหราสวยงามไม่ต่างกัน แต่ฟังก์ชันในรุ่น E จะมีมาไม่ครบ
- Honda Civic รุ่น E และ EL ล้อขนาด 16 นิ้วเหมือนกัน แต่แม็กจะเป็นคนละลวดลาย รุ่น E จะเป็นสีเงิน ส่วน EL จะเป็นทูโทนคือ ล้อลายใบพัดสีเงินตัดกับสีดำ ส่วนรุ่น E จะเป็นลายก้านตรง ๆ เล่นเส้นนิดหน่อยให้ดูมีความโดดเด่นสะดุดตา
- ความต่างที่เห็นได้ชัดคือ Honda Civic รุ่น E มือจับประตูจะเป็นสีเดียวกับตัวรถ ส่วนรุ่น EL มือจับประตูจะเป็นโครเมียม ดูหรูหรามากขึ้น
- กระจกมองข้างของ Honda Civic รุ่น E จะไม่มีไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง ขณะที่ Honda Civic รุ่น EL จะมีไฟเลี้ยวกระจกมองข้างมาให้ ไฟที่แก้มของ EL กลายเป็น Side marker เหมือนสหรัฐอเมริกา ส่วน Honda Civic รุ่น E ไฟแก้มจะเป็นไฟเลี้ยวแทน
- ด้านท้ายทั้ง 2 รุ่นนี้จะเหมือนกันคือ ไฟรูปตัว C เป็น LED
- เครื่องยนต์และช่วงล่างแบบเดียวกัน
- ห้องโดยสารภายในของ Honda Civic รุ่น EL เป็นเบาะหนังปรับไฟฟ้าได้ ส่วนรุ่น E จะเป็นแบบปรับมือเท่านั้น
- ทัศนวิสัยการมองเห็นของ Honda Civic ทั้งสองรุ่นทำได้ดีเยี่ยมเช่นเคย โดยรุ่น EL จะมาพร้อมมาตรวัดหน้าปัดแบบจอ TFT สี บอกข้อมูลรถ, เครื่องเสียง แบบอิสระมีกราฟิก ส่วนรุ่น E เป็นมาตรวัดรอบเข็ม จอความเร็วและบอกข้อมูลตัวเลขธรรมดา
- พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น สวิตช์ควบคุมระดับเสียงเครื่องเสียงบนพวงมาลัยแบบสัมผัส ซึ่งความต่าง คือรุ่น EL จะมี Cruise Control มาให้ส่วนรุ่น E จะไม่มี
- คอนโซลแดชบอร์ดดีไซน์สวยเหมือนกัน แต่รุ่น EL จอกลาง มีขนาดที่ใหญ่กว่าและมีกล้องมองหลังมาให้เลย จอสัมผัส Advanced touch 7" รองรับ Apple Carplay, Android Auto, บอกข้อมูลรถ, ควบคุมแอร์, ต่อมือถือ, ใช้ Siri ใน iPhone ได้ ส่วนรุ่น E เป็นวิทยุปุ่มกดจอสีเล็กๆ ธรรมดา EL มี ลำโพง 8 ตัว ส่วน E มี 4 ตัว
- ระบบปรับอากาศภายในรถเป็นแบบ Auto เหมือนกัน รุ่น EL ให้ช่อง USB 2 ช่อง 1.5A ใต้คอนโซล, 1A กล่องเก็บของกลาง ส่วนรุ่น E ให้มาช่องเดียว 1A ใต้คอนโซล
- ความต่างระหว่างรุ่น EL กับรุ่น E อีกอย่างคือ พวงมาลัยรุ่น EL จะหุ้มหนัง แล้วก็ด้ามเกียร์จะหุ้มหนังส่วนรุ่น E จะเป็นวัสดุยูรีเทนทั้งหมด ซึ่งยูรีเทนเนี่ยจะมีลักษณะเป็นยางเวลาโดนความร้อนเยอะๆ จะทำให้รู้สึกเหนียวได้
- ห้องโดยสารกว้างขวางเหมือนกัน ทั้ง Legroom และ Headroom เหลือๆ ที่เพิ่มมาอีกใน รุ่น EL คือระบบล็อครถอัตโนมัติเมื่อเดินออกจากระยะสัญญาณ และกล้องหลังที่ขึ้นจอกลางขณะถอยรถ
สรุปว่า ถ้าต้องการเทคโนโลยีและฟังก์ชั่นจัดเต็มก็เลือก Honda Civic รุ่น EL แต่ถ้าต้องการรถราคาประหยัด แนะนำให้เลือก Honda Civic รุ่น E พอเป็นรถมือสองแล้วทั้งสองรุ่นราคาน่าคบหา เทคโนโลยีและดีไซน์ยังไม่ตกยุคnโดยเฉพาะ ENNXO ที่มีรถ Honda Civic มือสอง สภาพนางฟ้า คุณภาพดี ให้เลือกหลายรุ่น ราคาโดนใจ โปรโมชั่นจัดเต็ม รับประกันทุกคัน เพราะเราคัดมาแล้วอย่างพิถีพิถัน การันตีรถทุกคัน ผ่านการตรวจเช็กสภาพอย่างละเอียดกว่า 150 จุด อัปเดตรถมือสองเข้าใหม่ของเราได้ที่แอปพลิเคชั่น ENNXO
