หากคุณเตรียมตัวสอบใบขับขี่ครั้งแรก รวมถึงเตรียมเอกสารต่าง ๆ ให้เรียบร้อย ก็ถึงเวลาแล้วที่จะสอบใบขับขี่ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ โดยการสอบใบขับขี่จะแบ่งเป็นการอบรมภาคทฤษฎี 5 ชั่วโมงและการสอบข้อเขียนภายใน 60 นาที โดยจะแบ่งออกเป็น 9 หมวด ENNXO ได้รวมแนวข้อสอบใบขับขี่ 2567 พร้อมเฉลยคำตอบมาให้คุณซ้อมมือจะได้ไม่ตื่นสนาม
ข้อสอบใบขับขี่ 2567
ใครสามารถทำใบขับขี่รถยนต์ได้บ้าง?
สำหรับคนที่จะสามารถทำใบขับขี่รถยนต์ได้ กรมขนส่งทางบกระบุว่า
- บุคคลที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
- มีความรู้และสามารถขับรถได้
- มีความรู้เกี่ยวกับกฎหมายจราจรทางบก
- ไม่เป็นผู้พิการทางร่างกาย
- ไม่มีโรคประจำตัว ที่อาจจะเป็นอันตรายต่อการขับรถ
- ไม่เป็นบุคคลวิกลจริต หรือมีสภาพจิตฟั่นเฟือน
- ต้องไม่เคยมีใบขับขี่ชนิดเดียวกันอยู่แล้ว
- ไม่เป็นผู้ที่อยู่ระหว่างถูกยึด หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
ข้อสอบใบขับขี่ 2567 มีกี่หมวด?
การสอบใบขับขี่รถยนต์ครั้งแรก จะมีการสอบทั้งหมด 3 หมวด แบ่งออกเป็น การทดสอบสมรรถภาพร่างกาย การสอบข้อเขียน (ภาคทฤษฎี) และการสอบภาคปฏิบัติ โดยมีรายละเอียดต่าง ๆ ดังนี้
1. การทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
ในหมวดนี้จะแบ่งออกเป็น 4 ฐาน โดยผู้เข้ารับการทดสอบจะต้องผ่านการตรวจเช็กความพร้อมของร่างกาย ได้แก่
- ทดสอบการมองเห็นสี (เขียว เหลือง แดง) เพื่อเช็กสมรรถนะการแยกแยะสี และผู้ขับขี่ต้องไม่ตาบอดสี เพราะอาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้รถใช้ถนนได้
- ทดสอบสายตาทางลึก เพื่อวัดความสามารถการมองเห็นในทางลึกของตาทั้งสองข้าง ด้วยการทดสอบที่จะให้คุณปรับการคลื่อนที่ของหลัก A และ B ให้ทับกันพอดี
- ทดสอบสายตาทางกว้าง เพื่อวัดสมรรถนะการมองเห็นในมุมกว้างที่สุดที่สายตามองเห็น
- ทดสอบปฏิกิริยาทางร่างกาย เป็นการทดสอบปฏิกริยาการตอบสนองของสายตาและความไวของเท้า โดยคุณจะต้องเหยียบคันเร่งจำลองและรอสัญญาณเบรกให้ทันภายในเวลาที่กำหนด
2. สอบข้อสอบใบขับขี่ 50 ข้อ
การสอบข้อเขียนด้วยคอมพิวเตอร์หรือ Electronic Examination (E-exam) จะมีด้วยกัน 50 ข้อ ภายในเวลา 60 นาที โดยคุณจะต้องตอบให้ถูกอย่างน้อย 90% หรือ 45 ข้อ หากไม่ผ่านตามเกณฑ์ที่กำหนด คุณจะต้องสอบใหม่ในวันถัดไป หรือไม่เกิน 90 วัน (หลังอบรม) แนะนำให้ลองทำแบบทดสอบออนไลน์ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนลงสนามสอบจริง โดยกรมขนส่งทางบกเปิดโอกาสให้คุณฝึกทำข้อสอบเสมือนจริงได้
3. การทดสอบภาคปฏิบัติ 3 ท่า
ขั้นตอนการสอบใบขับขี่รถยนต์ภาคปฏิบัติจะมีทั้งหมด 3 ท่าดังนี้
- ท่าที่ 1 ขับรถเดินหน้า และถอยหลังในทางตรง ขับรถตรงเป็นระยะทางประมาณ 12 เมตร โดยคุณต้องขับเดินหน้า 1 ครั้งและถอยหลังอีก 1 ครั้ง โดยห้ามชนหรือเบียดเสา
- ท่าที่ 2 ขับรถเดินหน้า และหยุดรถเทียบทางเท้า ด่านนี้คุณจะต้องจอดรถห่างจากขอบทางไม่เกิน 25 เซนติเมตร โดยห้ามมิให้ล้อเบียดขอบฟุตบาธ ห้ามมิให้เหยียบเส้นด้านข้าง และกันชนรถต้องไม่เกินเส้นหยุดรถด้านหน้า โดยมีระยะห่างได้ไม่เกิน 1 เมตร
- ท่าที่ 3 ถอยเข้าซอง ด่านนี้คุณจะต้องถอยรถเข้าช่องสี่เหลี่ยม ที่มีเสาล้อมรอบและมีช่องว่างกว้างกว่าตัวรถเล็กน้อย และเปลี่ยนเกียร์ได้ไม่เกิน 7 ครั้ง โดยห้ามชนหรือเบียดเสาเป็นอันขาด เมื่อจอดรถสำเร็จแล้วกระจกมองข้างต้องไม่ล้ำออกนอกเส้นที่กำหนด
แนวข้อสอบใบขับขี่ 2567 พร้อมเฉลยคำตอบ
ก่อนอื่นคุณต้องเข้าใจก่อนว่า ข้อสอบใบขับขี่จะแบ่งออกเป็น 9 หมวด ได้แก่
1. ข้อสอบใบขับขี่หมวดกฎหมายว่าด้วยรถยนต์
2. ข้อสอบใบขับขี่หมวดกฎหมายว่าด้วยจราจรทางบก
3. ข้อสอบใบขับขี่หมวดเครื่องหมายพื้นทาง
4. ข้อสอบใบขับขี่หมวดป้ายบังคับ
5. ข้อสอบใบขับขี่หมวดป้ายเตือน
6. ข้อสอบใบขับขี่หมวดป้ายแนะนำ
7. ข้อสอบใบขับขี่หมวดมารยาทและจิตสำนึก
8. ข้อสอบใบขับขี่หมวดเทคนิคการขับรถอย่างปลอดภัย
9. ข้อสอบใบขับขี่หมวดการบำรุงรักษารถ
** เรานำตัวอย่างข้อสอบบางข้อมาให้คุณลองติวเข้ม! **
ข้อสอบใบขับขี่ หมวดกฎหมายว่าด้วยรถยนต์
1. ในขณะขับรถผู้ขับขี่ต้องมีเอกสารใด ใช้คู่กับใบอนุญาตขับรถ?
ก. บัตรประจำตัวประชาชน
ข. สำเนาทะเบียนบ้าน
ค. สำเนาภาพถ่ายในคู่มือจดทะเบียนรถ
ง. บัตรประกันสังคม
2. ผู้ขับรถกระทำผิดตามกฎหมายจราจรทางบกและได้รับใบสั่งจากเจ้าพนักงานจราจรต้องไปติดต่อชำระค่าปรับภายในกี่วัน?
ก. 10 วัน
ข. 7 วัน
ค. 15 วัน
ง. 30 วัน
3. เมื่อใบอนุญาตขับรถสูญหายหรือชำรุด ต้องยื่นขอรับใบแทนต่อนายทะเบียนภายในกี่วัน?
ก. 20 วัน
ข. 30 วัน
ค. 15 วัน
ง. 45 วัน
4. ผู้ขับรถไม่มีใบอนุญาตขับรถ มีความผิดอย่างไร?
ก. จำคุกไม่เกิน 1 ปี
ข. จำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. ปรับไม่เกิน 2,000 บาท
ง. ปรับไม่เกิน 5,000 บาท
5. ใบอนุญาตขับรถชนิดชั่วคราวมีอายุกี่ปี?
ก. 1 ปี
ข. 2 ปี
ค. 3 ปี
ง. 4 ปี
6. การโอนรถต้องแจ้งต่อนายทะเบียนภายในกี่วัน?
ก. 15 วัน
ข. 45 วัน
ค. 20 วัน
ง. 30 วัน
7. การขับรถผ่านทางร่วมทางแยก ต้องปฏิบัติอย่างไร?
ก. เมื่อพบป้ายเตือนทางร่วมทางแยกให้ขับรถด้วยความเร็วปกติ
ข. หากไม่มีสัญญาณไฟจราจรให้รถคันที่ใหญ่กว่าผ่านทางร่วมทางแยกไปก่อน
ค. ปฏิบัติตามสัญญาณไฟจราจร หรือกฎจราจรอย่างเคร่งครัด
ง. เมื่อพบป้ายเตือนสัญญาณไฟบริเวณทางร่วมทางแยกให้ขับรถไปตามปกติ
8. ผู้ขับขี่ต้องการเลี้ยวรถ ต้องปฏิบัติอย่างไร?
ก. เปิดไฟเลี้ยวก่อนถึงทางเลี้ยว 20 เมตร
ข. ชะลอรถและเปิดไฟเลี้ยวก่อนถึงทางเลี้ยว ไม่น้อยกว่า 30 เมตร
ค. หยุดรถเพื่อเตรียมตัวเลี้ยว
ง. เร่งความเร็วก่อนเลี้ยว
9. การหยุดรถบริเวณทางแยกผู้ขับขี่ต้องปฏิบัตอิย่างไร?
ก. ยุดทับเส้นแนวหยุด
ข. หยุดเลยเส้นแนวหยุด
ค. หยุดเลยป้ายหยุด
ง. หยุดหลังเส้นแนวหยุด
10. บริเวณใดห้ามแซง?
ก. ทางตรง
ข. ทางที่ปลอดภัย
ค. ทางโล่ง
ง. ทางโค้งรัศมีแคบ
11. การจอดรถต้องจอดให้ห่างจากขอบทาง ไม่เกินกี่เซนติเมตร?
ก. ห่างไม่เกิน 25 เซนติเมตร
ข. ห่างไม่เกิน 30 เซนติเมตร
ค. ห่างไม่เกิน 35 เซนติเมตร
ง. ห่างไม่เกิน 40 เซนติเมตร
12. การเปลี่ยนสีรถต้องแจ้งต่อนายทะเบียนภายในกี่วัน?
ก. 7 วัน
ข. 10 วัน
ค. 15 วัน
ง. 20 วัน
13. รถยนต์ที่มีอายุครบกี่ปี? ต้องนำไปตรวจสภาพรถก่อนเสียภาษีประจำปี
ก. 3 ปี
ข. 4 ปี
ค. 5 ปี
ง. 7 ปี
14. รถที่นำมาใช้บนถนนต้องมีลักษณะอย่างไร?
ก. รถที่โคมไฟหน้าไม่ติด
ข. รถที่มีเสียงดัง.90 เดซิเบล A
ค. รถที่มีควันดำ 55 เปอร์เซ็นต์
ง. รถที่จดทะเบียนและชำระภาษีเรียบร้อยแล้ว
15. การกระทำใดของผู้ขับรถ ซึ่งเป็นการกระทำที่แสดงถึงความมีมารยาทและน้ำใจให้แก่ผู้ใช้ถนนร่วมกัน
ก. ขับรถแซงคิวแทรกเข้าตรงเชิงสะพานหรือก่อนเข้าซอย
ข. ขับรถบนไหล่ทางเพื่อไปแทรกเข้าด้านหน้าในช่องจราจรปกติ
ค. กลับรถบนถนนที่มีช่องจราจรสวนทางกันในลักษณะกีดขวางการจราจร
ง. ไม่หยุดรถบนเส้นทแยงสีเหลืองหรือบริเวณปากซอย และเปิดทางให้รถในเส้นทางอื่นสามารถขับผ่านไปได้ในขณะที่รถท่านติดการจราจร
16. เมื่อขับรถเข้าเขตชุมชนที่มีการจราจรติดขัด ผู้ขับรถควรทำอย่างไร?
ก. บีบแตรเพื่อเร่งรถคันหน้าและเตือนคนเดินถนนให้หลีกทางไป
ข. ขับเบียดรถที่จอดหรือคนเดินถนนโดยล้ำไปยังช่องจราจรที่สวนมา
ค. ขับย้อนศรเพื่อหนีการจราจรติดขัดไปยังเส้นทางอื่น
ง. ขับช้า ๆ โดยระมัดระวังคนเดิน ใช้แตรเมื่อจำเป็นเพื่อเตือนคนเดินถนนหรือรถคันอื่นเท่านั้น
17. ในการขับรถช่วงเวลากลางคืน ควรที่จะมีการใช้ไฟหน้ารถอย่างไร?
ก. เปิดไฟสูงตลอดเวลาที่ขับขี่
ข. เปิดทั้งไฟหน้า และไฟตัดหมอก
ค. เปิดไฟหน้า ไฟตัดหมอก และไฟกระพริบฉุกเฉิน
ง. เปิดไฟต่ำเมื่อมีรถอยู่ด้านหน้าและรถสวนทางมา
18. การขับรถผ่านช่วงทางโค้ง ทางร่วม ทางแยกในช่วงเวลากลางคืน ควรจะมีวิธีการใช้ไฟหน้ารถที่เหมาะสมอย่างไร?
ก. ก่อนเข้าโค้งให้กระพริบไฟ และลดเป็นไฟต่ำเมื่อมีรถสวนทาง
ข. ชะลอความเร็วก่อนเข้าทางแยก.แล้วกระพริบไฟและเปิดไฟฉุกเฉิน
ค. ชะลอความเร็วก่อนเปิดไฟสูง
ง. ชะลอความเร็วก่อนเปิดไฟต่ำ
19. ท่านคิดว่าข้อใดเป็นการขับขี่ที่ไร้ซึ่งมารยาทอย่างมาก
ก. ใช้ความเร็วรถปกติ เมื่อมีรถคันอื่นกระพริบไฟขอทาง
ข. ขับรถชิดซ้าย หรือให้ทางแก่รถฉุกเฉิน
ค. ชะลอความเร็วให้รถคันอื่นแซง
ง. ขับรถจี้ท้าย และบีบแตรไล่บนทางด่วน
20. ท่านคิดว่าผู้ขับขี่ ควรปฏิบัติตนอย่างไรในการขับขี่รถให้เกิดความปลอดภัย
ก. พูดคุยหยอกล้อกับแฟนสาวขณะขับรถ
ข. ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในขณะขับรถ
ค. ดื่มสุรา นอนดึก ตื่นเช้าขับรถ
ง. ไม่ประมาท มีวินัย และเคารพในกฎจราจร
21. ข้อใดเป็นการปฏิบัติที่ถูกต้องที่สุด
ก. ศึกษาเรียนรู้ในกฎจราจร
ข. ขับรถโดยมีใบขับขี่ที่ถูกต้องและปฏิบัติตามกฎจราจร
ค. ศึกษาเรียนรู้ในกฎจราจรทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ง. ตั้งใจฟังการถ่ายทอดอบรมเพื่อสอบใบขับขี่
22. การขับรถในทางขึ้นเขา ลงเขา และมีโค้งอันตรายอยู่ตลอดทาง ท่านควรขับขี่อย่างไร?
ก. เหยียบเบรกตลอดการลงเขาและใช้เกียร์สูง
ข. ต้องเร่งความเร็วของรถเพื่อขึ้นเขาและลงเขา
ค. ต้องใช้ความเร็ว และเกียร์ให้เหมาะสม
ง. ใช้เกียร์สูงขณะขึ้นเขา ลงเขา และเข้าโค้ง
23. หากมีผู้ขับรถจี้ท้ายรถท่านในช่องทางขวาสุด และบีบแตรไล่หลังทั้งที่ช่องทางด้านซ้ายก็ว่างอยู่ ท่านควรปฏิบัติตนอย่างไร?
ก. ขับรถหลีกทางเบี่ยงไปทางช่องทางด้านซ้ายอย่างระมัดระวัง
ข. เร่งความเร็ว ไม่ให้แซงอย่างเด็ดขาด
ค. แซงไปก่อน แล้วขับรถไล่ตลอดทาง
ง. กระพริบไฟด้านซ้ายเป็นสัญญาณให้แซงด้านซ้าย
24. ในขณะที่ท่านขับรถอยู่บนถนน และมีผู้อื่นแบ่งปันน้ำใจในการใช้รถใช้ถนนให้ท่าน ข้อใดไม่ใช่วิธีที่ควรปฏิบัติที่เหมาะสม?
ก. ส่งยิ้มแสดงการขอบคุณ
ข. โค้งศีรษะแสดงความขอบคุณ
ค. ยกมือขวาขึ้นระดับคิ้วแสดงการขอบคุณ
ง. เปิดไฟสูงแสดงการขอบคุณ
25. ในกรณีที่ท่านขับรถผิดกฎหมาย ผิดกฎจราจร หรือก่อความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่นเมื่อเจ้าของรถคู่กรณีกำลังเผชิญหน้ากับท่าน สิ่งที่ควรปฏิบัติคือ
ก. ขอให้มีการดำเนินตามกฎหมายว่าฝ่ายใดถูกฝ่ายใดผิด
ข. จอดรถลงมาถามว่าได้ทำความเดือนร้อนอะไรให้อย่างไร
ค. รีบขับรถไปจากที่นั้นโดยเร็วที่สุด
ง. ยกมือขวาขึ้นระดับคิ้วพร้อมโค้งศีรษะ เพื่อสื่อให้รู้ว่าทำผิดและขอโทษ
ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงแนวทางข้อสอบใบขับขี่ปี 2567 ที่เรานำมาฝากกัน แต่หากอยากทดสอบจริงจังกรมขนส่งทางบกเปิดโอกาสให้คุณฝึกทำข้อสอบเสมือนจริงได้
