หากใบขับขี่ของคุณใกล้จะหมดอายุก็ถึงเวลาต่อใบขับขี่กันแล้ว สิ่งที่คุณควรรู้ก่อนต่อ ใบขับขี่หมดอายุปี 2567 มีอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเอกสารที่ต้องเตรียมและค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่าย แล้วถ้าใบขับขี่หมดอายุต้องต่อภายในกี่วัน ENNXO รวบรวมข้อควรรู้ไว้ครบในที่เดียว รวมถึงการต่อใบขับขี่ออนไลน์ที่ช่วยให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้นอีกเยอะ
ใบขับขี่หมดอายุ 2567 ทุกเรื่องที่ต้องรู้
- ใบขับขี่ ทำไมต้องพกเวลาขับรถ?
- ใบขับขี่รถยนต์มีอายุเท่าไหร่?
- ค่าธรรมเนียมต่อใบขับขี่ 2567
- ต่อใบขับขี่ใช้เอกสารอะไรบ้าง
- ขั้นตอนการต่อใบขับขี่หมดอายุ 2567
- ใบขับขี่หมดอายุ ต่อที่ไหนได้บ้าง?
- ต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้กี่เดือน?
- ใบขับขี่หมดอายุต้องต่อภายในกี่วัน 2567
- ใบขับขี่หมดอายุ เคลมประกันได้ไหม?
ใบขับขี่ ทำไมต้องพกเวลาขับรถ?
เพราะ “ใบขับขี่” หรือใบอนุญาตขับรถประเภทต่างๆ และเป็นหลักฐานที่แสดงว่า เจ้าของใบขับขี่ได้ผ่านการทดสอบตามที่กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กำหนดไว้ หากผู้ขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ หรือรถประเภทใดๆ ไม่มีใบขับขี่ถือว่าผิดกฎหมายและต้องได้รับโทษ
คุณจึงจำเป็นต้องพกใบขับขี่ติดตัวทุกครั้งที่ขับรถ เพราะหากเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนหรือเหตุการณ์ฉุกเฉิน ใบขับขี่จะช่วยในการเรียกร้องค่าเสียหายจากบริษัทประกัน และหากคุณตำรวจเรียกตรวจก็ใช้ยืนยันและหลีกเลี่ยงการเสียค่าปรับโดยไม่จำเป็นอีกด้วย
ใบขับขี่หมดอายุ บ่อยแค่ไหน?
ใบขับขี่จะแบ่งตามอายุการใช้งานได้ 3 ประเภท แต่ละประเภทมีอายุการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนี้
- ใบขับขี่ชั่วคราว 2 ปี: กรณีที่ผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถเป็นใบแรกจะมีอายุเพียง 2 ปี ทั้งใบขับขี่รถยนต์ และใบขับขี่รถจักรยานยนต์ โดยจะเรียกว่า "ใบอนุญาตขับรถยนต์ชั่วคราว" หรือ "ใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์ชั่วคราว"
- ใบขับขี่ชนิด 5 ปี: กรณีที่ผู้ขับรถต้องการจะต่อใบอนุญาตขับขี่ รอบที่ 2 หรือรอบต่อ ๆ ไป นายทะเบียนออกจะออกใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคล ซึ่งจะมีอายุการใช้งาน 5 ปี พร้อมปรับช่วงการหมดอายุบัตรให้ตรงกับวันเกิด เพื่อช่วยให้จำง่ายในการต่อใบขับขี่ครั้งต่อไป
- ใบขับขี่ตลอดชีพ: ปัจจุบันใบขับขี่รูปแบบนี้จะยกเลิกไปแล้วก็ตาม ยกเว้นผู้ที่มีใบขับขี่ตลอดชีพมาก่อน
ค่าธรรมเนียมต่อใบขับขี่หมดอายุ 2567
การต่อใบขับขี่จำเป็นต้องเสียค่าธรรมเนียม หรือชำระเงินตามที่กฎหมายกำหนด โดยจะแบ่งออกเป็นค่าธรรมเนียมของรถยนต์แต่ละประเภท บวกกับคำร้องขออีก 5 บาท ดังนี้
ค่าต่อใบขับขี่ 2567
- ค่าธรรมเนียมต่อใบขับขี่รถยนต์ชั่วคราว 2 ปี จำนวน 205 บาท (ค่าธรรมเนียม 200 บาท + คำร้อง 5 บาท)
- ค่าธรรมเนียมต่อใบขับขี่รถยนต์ 5 ปี จำนวน 505 บาท (ค่าธรรมเนียม 500 บาท + คำร้อง 5 บาท)
- ค่าธรรมเนียมต่อใบขับขี่รถจักรยานยนต์ จำนวน 255 บาท (ค่าธรรมเนียม 250 บาท + คำร้อง 5 บาท)
ต่อใบขับขี่หมดอายุใช้เอกสารอะไรบ้าง
ต่อใบขับขี่จาก 2 ปี (ชั่วคราว) เป็น 5 ปี
ถ้าต้องการเปลี่ยนใบขับขี่จาก 2 ปี (ชั่วคราว) เป็น 5 ปี ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง
- บัตรประชาชนตัวจริง
- ใบอนุญาตฉบับเดิม
- ใบรับรองแพทย์ อายุไม่เกิน 1 เดือน
ต่อใบขับขี่ 5 ปีเป็น 5 ปี ใช้เอกสารอะไรบ้าง
หลักฐานที่ต้องใช้ในการ ต่อใบขับขี่ 2567 5 ปีเป็น 5 ปี มีอะไรบ้าง?
- บัตรประชาชนตัวจริง
- ใบอนุญาตฉบับเดิม
- ใบรับรองแพทย์ อายุไม่เกิน 1 เดือน
ใบรับรองแพทย์ทำใบขับขี่ ตรวจได้ที่ไหนบ้าง?
ตามความหมายของแพทยสภา หมายถึง เอกสารที่ออกโดยแพทย์ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมเพื่อรับรองว่า บุคคลใดบุคคลหนึ่งได้รับการตรวจร่างกายจริง ตามประกาศขนส่งฉบับใหม่ (บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา)
ซึ่งใบรับรองแพทย์สำหรับทำใบขับขี่ จะมีอายุใช้งานไม่เกิน 1 เดือน (นับตั้งแต่วันที่ไปขอใบรับรองแพทย์จนถึงวันที่ทำใบขับขี่) จะตรวจหาโรคต่าง ๆ ดังนี้
- โรคเรื้อน / Leprosy
- วัณโรคระยะอันตราย / Advanced Pulmonary Tuberculosis
- ยาเสพติดให้โทษ / Drug addiction
- โรคพิษสุราเรื้อรัง / Chronic alcoholism
- โรคเท้าช้าง / Elephantiasis
คุณสามารถตรวจร่างกายเพื่อขอใบรับรองแพทย์ สำหรับทำใบขับขี่ได้ที่โรงพยาบาลและคลินิกเวชกรรมทุกแห่ง ใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที ตั้งแต่การซักประวัติ เข้ารับการตรวจ และการออกใบรับรองแพทย์
ขั้นตอนการต่อใบขับขี่หมดอายุ 2567
ขั้นตอนการต่อใบขับขี่หมดอายุ 2567 มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง
- อบรมผ่านระบบ e-Learning ได้ทางเว็บไซต์กรมการขนส่ง www.dlt-elearning.com
- การต่อใบขับขี่สามารถดำเนินการได้ทั้ง walk in หรือจองคิวผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue
- ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
- กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ออกใบอนุญาตขับรถ
การต่อใบขับขี่หมดอายุ ถ้าต่อใบขับขี่ขณะที่ใบขับขี่หมดอายุไม่เกินกว่า 1 ปีจะสามารถต่อได้ทันทีโดยอบรมออนไลน์เพียง 1 ชั่วโมง แต่ถ้าใบขับขี่หมดอายุเกิน 1 ปีแต่ไม่เกิน 3 ปี จะต้องรับการอบรมออนไลน์ 2 ชั่วโมงพร้อมทำทดสอบข้อเขียนเพิ่มเติม ขณะที่ถ้าปล่อยให้ใบขับขี่หมดอายุเกินกว่า 3 ปี จะต้องอบรมออนไลน์ 2 ชั่วโมงพร้อมสอบทั้งข้อเขียนและสอบปฎิบัติใหม่ทั้งหมด
ต่อใบขับขี่วันเสาร์-อาทิตย์ได้ไหม ได้ถึงกี่โมง 2567
สามารถต่อใบขับขี่ได้ ณ สำนักงานขนส่ง ในพื้นที่ โดยจะเปิดให้บริการทุกวัน เวลา 8.00-15.30 น.
ใบขับขี่หมดอายุ ต่อที่ไหนได้บ้าง?
ปัจจุบันสามารถสามารถต่อใบขับขี่หมดอายุได้ที่ สำนักงานขนส่งทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยไม่จำเป็นต้องไปต่ออายุที่สำนักงานขนส่งตามภูมิลำเนาในทะเบียนบ้าน นอกจากนั้น ผู้ที่ต้องการต่อใบขับขี่ยังสามารถจองคิวขอรับบริการล่วงหน้าผ่านเว็บหรือแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue โดยสามารถเลือกวันและเวลาที่สะดวกได้ตามต้องการ และช่วยให้ประหยัดเวลามากกว่าการวอล์กอิน (Walk-in) อีกด้วย
ต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้กี่เดือน 2567
อย่าปล่อยให้ใบขับขี่หมดอายุ เพราะหากเจอคุณตำรวจเรียกตรวจ หรือเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนจะไม่ใช่เรื่องสนุกเลยและอาจจะเจอค่าปรับอ่วมอย่างแน่นอน ทางที่ดีควรต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 180 วัน หรือ 6 เดือน เพื่อให้ผู้ขับขี่ต่อใบขับขี่ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่สำหรับคนที่ใบขับขี่หมดอายุควรรู้อะไรบ้าง?
ใบขับขี่หมดอายุ ต้องต่อภายในกี่วัน
ใบขับขี่หมดอายุ ต้องต่อใหม่ภายในกี่วัน มีแบบไหนบ้าง สามารถเช็ครายละเอียดต่างๆ ได้เลยที่นี่
ใบขับขี่หมดอายุไม่เกิน 1 ปี
- ผู้ขับขี่สามารถอบรมใบขับขี่ออนไลน์ได้ภายในเวลา 1 ชั่วโมง และต่อใบขับขี่ที่กรมขนส่งทางบกได้เลย โดยเสียค่าธรรมเนียมในการต่ออายุเท่านั้น
ใบขับขี่หมดอายุเกิน 1 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 3 ปี
- ใบขับขี่หมดอายุเกิน 1-2 ปีแต่ไม่เกิน 3 ปี ผู้ขับขี่จะต้องอบรมใบขับขี่ออนไลน์ใช้เวลา 2 ชั่วโมง และทำการสอบข้อเขียนใหม่ โดยต้องทำคะแนนได้มากกว่า 90% หรือตอบถูกมากกว่า 45 ข้อจาก 50 ข้อ (เหมือนตอนทำใบขับขี่ใหม่)
ใบขับขี่หมดอายุเกิน 3 ปี
- ผู้ขับขี่จะต้องอบรมใบขับขี่ออนไลน์ใช้เวลา 2 ชั่วโมง และสอบใหม่ทั้งหมดทั้งข้อเขียนและภาคปฏิบัติ เหมือนคุณเริ่มทำใบขับขี่ใหม่นั่นเอง แม้การต่ออายุใบขับขี่จะไม่มีค่าปรับ แต่สำหรับคนที่ปล่อยให้ใบขับขี่หมดอายุแล้วยังขับรถตามปกติ หากคุณตำรวตเรียกตรวจจะถือว่าผิดกฎหมายจราจร และถูกวางโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท
ใบขับขี่หมดอายุ เคลมประกันได้ไหม?
- กรณีที่ใบขับขี่หมดอายุ สำหรับคนที่ทำประกันภัยชั้น 1 คุณจะยังได้รับความคุ้มครองจากบริษัทประกันภัยตามปกติ โดยคุ้มครองทั้งในส่วนของคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี รวมถึงกรณีรถสูญหายหรือไฟไหม้
- กรณีที่ผู้ขับขี่ไม่มีใบขับขี่ บริษัทประกันจะจ่ายค่าคุ้มครองหรือค่าสินไหมทดแทนให้แก่คู่กรณีเท่านั้น ส่วนรถของผู้เอาประกันจะต้องจ่ายค่าเสียหายเองทั้งหมด
- กรณีมีใบขับขี่ แต่ไม่ได้พกขณะขับขี่ บริษัทประกันภัยจะคุ้มครองทั้งรถของคุณและคู่กรณี
- กรณีใบขับขี่ถูกยึด บริษัทประกันภัยจะคุ้มครองทั้งรถของคุณและคู่กรณี
รู้อย่างนี้แล้ว ควรพกใบขับขี่ติดตัวทุกครั้งที่ขับรถ และควร ต่อใบขับขี่หมดอายุ ล่วงหน้าก่อนหมดอายุจะอุ่นใจกว่า เพราะหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันบนท้องถนนคุณก็จะหมดกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ ไปได้เลย อีกอย่างเวลาเจอคุณตำรวจเรียกก็ไม่ต้องกังวลเรื่องเสียค่าปรับอีกด้วย